แบบทดสอบการอ่านตีความ แปลความและขยายความ
ให้เลือคำตอบที่ถูกต้องท� �่สุดเพียงข้อเดียว
- 1.
1. ข้อใดไม่ใช่หลักการอ่านตีความ
- A.
การอ่านตีความไม่จำเป็นต้องอ่านเรื่องให้ละเอียด
- B.
การถอดคำประพันธ์ในบทร้อยกรองคือการอ่านตีความ
- C.
คิดหาเหตุผลอย่างรอบคอบก่อนนำมาประมวลเขข้ากับความคิดของตน
- D.
วิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องที่อ่านตามความรู้สึกและความคิดของตน
Correct Answer
D. วิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องที่อ่านตามความรู้สึกและความคิดของตนExplanation
The correct answer is "วิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องที่อ่านตามความรู้สึกและความคิดของตน" (Interpreting and expressing opinions about the text based on one's feelings and thoughts). This answer is correct because it accurately describes one of the principles of interpreting texts, which is to analyze and provide personal opinions about the text based on one's own emotions and thoughts.Rate this question:
-
- 2.
2. อ่านคำประพันธ์ต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ 2-3 “ไม่มีใครไม่เคยไม่ผิดพลาด ไม่มีใครไม่เคยขลาดมาแต่ต้น เมื่อมีเมฆย่อมมีความมืดมน หลังพายุผ่านพ้นจึงสร่างซา“เมื่อมีเมฆย่อมมีความมืดมน” มีความหมายว่าอย่างไร
- A.
เมื่อมีความผิดพลาดย่อมมีความสมหวัง
- B.
เมื่อมีชีวิตย่อมพบกับอุปสรรค
- C.
เมื่อมีความผิดหวังย่อมพบกับความเสียใจ
- D.
เมื่อมีอุปสรรคก็ย่อมพบกับความผิดหวัง
Correct Answer
B. เมื่อมีชีวิตย่อมพบกับอุปสรรคExplanation
The phrase "เมื่อมีชีวิตย่อมพบกับอุปสรรค" means "when there is life, there will always be obstacles." This implies that in life, it is inevitable to encounter difficulties or challenges.Rate this question:
-
- 3.
3. จากข้อความในข้อ 2. ตีความด้านน้ำเสียงได้ว่าอย่างไร
- A.
ความผิดหวังคือพลังของชีวิต
- B.
สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
- C.
ทุกคนย่อมผ่านความผิดพลาดมาก่อน
- D.
เมื่ออุปสรรคผ่านพ้นไปแล้วย่อมพบความสมหวังได้
Correct Answer
D. เมื่ออุปสรรคผ่านพ้นไปแล้วย่อมพบความสมหวังได้Explanation
After overcoming obstacles, one can find hope. This is indicated by the phrase "เมื่ออุปสรรคผ่านพ้นไปแล้วย่อมพบความสมหวังได้" which translates to "When obstacles have passed, one can find hope." The previous lines in the text mention disappointment, mistakes, and everyone experiencing errors before finding hope. Therefore, the correct interpretation is that after going through difficulties, one can find hope.Rate this question:
-
- 4.
4. “ชีวิตวนเวียนวันผันผ่านพบ กว่าดินกลบร่างลับชีพดับสูญ คนละคนปนเกลศเหตุมั่วมูล จะคิดพูนเพิ่มกุศลดูหม่นมัว” น้ำเสียงของผู้เขียนคำประพันธ์ข้างต้นตรงกับข้อใด
- A.
วิตก
- B.
สังเวช
- C.
สิ้นหวัง
- D.
เบื้อหน่าย
Correct Answer
C. สิ้นหวังExplanation
The given poem describes the chaotic and unpredictable nature of life, where people encounter various difficulties and sufferings. The phrase "สิ้นหวัง" translates to "hopeless" or "despair," which aligns with the overall theme of the poem. The author suggests that life is filled with challenges and uncertainties, leading to a sense of hopelessness. Therefore, "สิ้นหวัง" is the correct answer that reflects the tone and message of the poem.Rate this question:
-
- 5.
5. เพราะเหตุใดพระวิกรมาทิตย์จึงหลงกลเวตาลเผลอตอบคำถามที่เวตาลยั่วให้ตอบทุกครั้ง
- A.
พระวิกรมาทิตย์เป็นคนขาดสติ ไม่รู้จักควบคุมตนเอง
- B.
พระวิกรมาทิตย์เป็นคนชอบอวดฉลาด คิดว่าตนเองรู้มากกว่าคนอื่น
- C.
พระวิกรมาทิตย์มีความเมตตา ต้องการให้เวตาลได้รับความรู้ที่ถูกต้อง
- D.
พระวิกรมาทิตย์มีขัตติยมานะสูง ทรงทนไม่ได้ที่ถูกเวตาลดูหมิ่นวรรณะกษัตริย์
Correct Answer
D. พระวิกรมาทิตย์มีขัตติยมานะสูง ทรงทนไม่ได้ที่ถูกเวตาลดูหมิ่นวรรณะกษัตริย์Explanation
The correct answer is that the reason why Phra Vikrommati accidentally answers every provoking question is because he has a high level of patience and does not tolerate being insulted or mocked by Vetal. This is evident from the statement that Phra Vikrommati has a high level of forbearance and does not tolerate being insulted by Vetal.Rate this question:
-
- 6.
6. “ส่วนพระราชานั้น ใครบ้างนึกว่าจะได้ปัญญาจากพระราชา ใครบ้างไปหาพระราชาใน ขณะที่ต้องการพบผู้เฉลียวฉลาด ส่วนตัวข้าพเจ้า (เวตาล) นี้พิศวงว่า พระองค์ผู้ทรงนามว่า วิกรมาทิตย์ เป็นพระราชาผู้ประกอบด้วยปัญญายิ่งมหากษัตริย์ทั้งปวง พระองค์จะตัดสิน ได้บ้างกระมังว่า นางนั้นควรเป็นของชายคนไหนโดยทางที่ชอบ” จากข้อความข้างต้น สะท้อนลักษณะพิเศษของผู้พูดในด้านใดเด่นชัดที่สุด
- A.
ผู้พูดรู้จักใช้จิตวิทยาในการพูด
- B.
ผู้พูดใช้สำนวนภาษาไพเราะ สละสลวย
- C.
ผู้พูดรู้จักให้เกียรติคู่สนทนา แสดงมารยาทในการพูดดี
- D.
ผู้พูดพูดจาเสียดสี พูดประชดประชัน ซึ่งผิดหลักการพูดที่ดี
Correct Answer
B. ผู้พูดใช้สำนวนภาษาไพเราะ สละสลวยExplanation
The answer suggests that the speaker uses figurative language and speaks in a poetic and graceful manner. This is evident from the use of phrases such as "สำนวนภาษาไพเราะ" (figurative language) and "สละสลวย" (graceful). This indicates that the speaker has a skillful and eloquent way of expressing themselves, using poetic and artistic language to convey their thoughts and ideas.Rate this question:
-
- 7.
7. “ถ้าเราได้เห็นนางอีก เราคงจะกล่าวว่า นี่คือรูปที่ชายหลงใหล สิ่งนี้มิใช่อื่นไกล คือ ตะกร้าซึ่งมีหนังหุ้มภายนอก ข้างในคือกระดูกเลือดเนื้อ แลสิ่งโสโครกทั้งหลายเท่านั้น” ความคิดของชายหนุ่มคนนี้สอดคล้องกับข้อใด
- A.
การรู้จักข่มใจตน
- B.
ชีวิตมนุษย์เป็นอนิจจัง
- C.
การตระหนักถึงความตาย
- D.
สังขารมนุษย์เป็นสิ่งน่ารังเกียจ
Correct Answer
D. สังขารมนุษย์เป็นสิ่งน่ารังเกียจExplanation
The passage describes the man's thoughts upon seeing a certain image. He states that if he were to see the image again, he would say that it is a picture that captivates men, nothing else. He then goes on to describe the image as a basket covered in leather on the outside, with bones and flesh inside, and various other organs. This suggests that the man finds the human body to be disgusting or repulsive, which aligns with the idea that humans are repugnant creatures. Therefore, the man's thoughts support the statement that "สังขารมนุษย์เป็นสิ่งน่ารังเกียจ" (Humans are repugnant creatures).Rate this question:
-
- 8.
8. “ความโง่ของข้าพเจ้าทะลุแล้ว แต่พระองค์นั้นยัง” เวตาลกล่าวข้อความนี้ด้วยเจตนา อย่างไร
- A.
เยาะเย้ย
- B.
หยอกล้อ
- C.
ยั่วให้โกรธ
- D.
เหยียดหยาม
Correct Answer
A. เยาะเย้ยExplanation
The correct answer is "เยาะเย้ย" because the phrase "ความโง่ของข้าพเจ้าทะลุแล้ว" indicates that the speaker is acknowledging their own foolishness. The word "แต่" suggests a contrast or contradiction, implying that despite the speaker's foolishness, someone else (พระองค์นั้น) is still engaging in mocking or ridiculing them. Therefore, the most appropriate intention behind the statement would be to say that the speaker is being mocked or ridiculed.Rate this question:
-
- 9.
9. ข้อใดใช้ภาพพจน์ ต่างจากข้ออื่น
- A.
เราได้เคยคิดว่าริมฝีปากของนางเหมือนผลไม้สุก อกเหมือนบัวตูม
- B.
นางมธุมาลตีมีตาเหมือนนิโลตบลซึ่งบานเต็มที่ มีแขนเหมือนก้านบัว
- C.
ข้าพเจ้าไม่อาจกินอาหารได้ ในที่เลี้ยงของคนที่ประพฤติราวกับรากษส
- D.
ลูกหญิงซึ่งอายุควรมีคู่ไม่มีคู่ย่อมเป็นเช่นก้อนอุกาบาทว์ห้อยอยู่เหนือหลังคาเรือน
Correct Answer
D. ลูกหญิงซึ่งอายุควรมีคู่ไม่มีคู่ย่อมเป็นเช่นก้อนอุกาบาทว์ห้อยอยู่เหนือหลังคาเรือน -
- 10.
10. คำประพันธ์ต่อไปนี้แปลความได้ว่าอย่างไร จะหามณีรัตน์ รุจิเลศก็อาจหา เพราะมีวณิชค้า และดนูก็มั่งมี ก็แต่จะหาซึ่ง ภรรยาและมิตรดี อทรัพยมากมี ก็บ่ได้ประดุจใจ
- A.
การหาแก้วมณีมาครอบครองนั้น หาได้ง่ายกว่าภรรยาและมิตรที่ดี
- B.
หากต้องการแก้วมณีก็อาจหาซื้อได้จากพ่อค้าทั่วไป แต่ภรรยาและมิตรที่ดีไม่อาจหาซื้อได้
- C.
หากมีเงินก็สามารถหาซื้อแก้วแหวน เงิน ทอง ได้ดั่งใจ แม้แต่ภรรยาและมิตรที่ดีหากไม่มีเงินก็ไม่อาจทำได้
- D.
แก้วมณีอันงดงามนั้นอาจใช้เงินหาซื้อได้ แต่ภรรยาและมิตรที่ดีนั้น แม้จะทรัพย์มากมายเพียงใดก็ไม่อาจหาซื้อได้
Correct Answer
D. แก้วมณีอันงดงามนั้นอาจใช้เงินหาซื้อได้ แต่ภรรยาและมิตรที่ดีนั้น แม้จะทรัพย์มากมายเพียงใดก็ไม่อาจหาซื้อได้Explanation
The poem states that finding a precious gem like an emerald is easier than finding a good wife and good friends. While a gem can be purchased with money, a good wife and good friends cannot be bought, even with great wealth. This implies that the value of a good wife and good friends cannot be measured in material possessions and cannot be acquired through monetary means.Rate this question:
-
Quiz Review Timeline +
Our quizzes are rigorously reviewed, monitored and continuously updated by our expert board to maintain accuracy, relevance, and timeliness.
-
Current Version
-
Jul 22, 2024Quiz Edited by
ProProfs Editorial Team -
Jul 16, 2010Quiz Created by
Amarit
Back to top